ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ….. เสียงเคาะประตูเรียกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
คิณตื่นอาบน้ำแปรงฟันได้แล้วลูก เสียงคุณแม่พูดแต่เช้า ครับแม่กำลังผมลงไปครับ ทุกอย่างเสร็จหมดแล้วครับ แม่เตรียมอาหารเช้าให้แล้วนะลูก มีไข่เจียว
ผัดผักคะน้า ปลาทอดราดพริก ผมอุทาน ว้าวน่าทานทั้งนั้นเลย แม่เตรียมตักข้าวให้กับผม
แล้วพ่อล่ะครับผมเอ่ยถาม อ่อ พ่อรีบไปเข้างานตั้งแต่ 6 โมงแล้วล่ะลูก พ่อไปทำงานเช้าจังเลยนะครับแม่ จ่ะ
รีบทานข้าวกันเถอะลูก เดี๋ยวสายๆสัก 8
โมง แม่ต้องไปทำงานจ่ะ แม่ทำงานที่ไหนครับ ผมทานข้าวแล้วพลางถามแม่ งานบ้านน่ะลูก
งานนี้แม่เองก็ทำมาได้ครึ่งปีแล้ว เพราะงานก่อสร้างมันหนักแม่ทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ไหว
จึงขอหัวหน้าลาออกมาแล้วก็โชคดีได้งานแม่บ้านในหมู่บ้านพอดี
ดีจังเลยนะครับแม่ วันนี้ผมเองก็จะไปสมัครงานเคเอฟซี ที่คุยไว้เมื่อวานด้วยครับ เอ๊ะ… คิณจะไปทำจริงๆหรอลูก
แม่อุทานขึ้น คือว่าแม่ยังไม่ได้ปรึกษาพ่อเรื่องงานใหม่ของลูกเลยน่ะ แม่เอ่ย ไม่เป็นไรหรอกครับแม่รีบทานข้าวก่อนเถอะครับเดี๋ยวข้าวเย็นซะก่อน
จ่ะลูก ระหว่างทานข้าวกับแม่ผมก็ได้พูดคุยกันไปหลายเรื่อง อิ่มแล้วครับ
ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือลูบท้อง แม่ผมหันมายิ้มให้
แม่ครับวันนี้ผมจะล้างชามให้เองนะครับ ไม่ต้องหรอกจ่ะคิณ
เอาชามไว้ที่อ่างล้างจานก็พอแล้วเดี๋ยวกลับมาแม่จะล้างเอง อุ๊ย…..ตายจริงนี่เวลาเร็วจริงๆเลย
7:20 น.
แล้วหรอเนี่ย แม่ต้องรีบไปทำงานก่อนนะคิณ แม่พูดด้วยท่าทางรีบร้อนพร้อมกับนำกล่องข้าวกลางวันกับกระเป๋าสะพายใส่หน้าตะกร้ารถจักรยานแม่บ้านสีชมพูคันนั้น
คิณถ้าหิวเอาอาหารในตู้เย็นมาอุ่นกินไปก่อนนะลูก
เงินแม่วางไว้ที่โต๊ะห้องนั่งเล่นนะลูกแม่ต้องรีบไปทำงานก่อนนะ
ถ้าไปสายเดี๋ยวคุณนายจะบ่นแม่เอา เมื่อสิ้นเสียงของแม่ก็รีบปั่นจักรยานไป
ผมได้แต่ยืนมองแม่รีบปั่นจักรยานแม่บ้านจนลับสายตาผม
เฮ้อ นี่เราต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้วหรอเนี่ย
ผมพูดพลางเอ่ยถอนหายใจไปด้วย เหงาจังเลย
เอาล่ะเริ่มล้างจานก่อนดีกว่า แล้วเด็กชายเอาเศษอาหารในจานชามบนโต๊ะเขี่ยลงถังขยะทันที
แล้วนำไปไว้ในอ่างล้างจานแล้วบรรจงล้างทีละใบๆจนเสร็จ เฮ้อเสร็จสักที
เมื่อแม่กลับบ้านมาจะได้ไม่เหนื่อย วันนี้จะทำอะไรต่อดีนะไปสมัครงานดีกว่า
ผมพูดพลางขึ้นไปหยิบกระเป๋าเตรียมเอกสารที่ถ่ายไว้มาเขียนสำเนาถูกต้องกำกับเอาไว้
และรีบแต่งตัวออกจากบ้าน อืม เกือบลืมเงินที่แม่ทิ้งไว้ให้แล้วไหมล่ะ แต่โหว แม่ให้ตั้งเงิน 100 บาทเลยหรอเนี่ย เด็กชายร้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจ
แล้วปิดประตูล็อคกุญแจบ้านแล้วรีบเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ทันที 20 นาทีผ่านไป เฮ้อ รถเมล์ไม่มาสักทีเลยนะ และแล้วความหวังของผมก็ปรากฏขึ้นรถเมล์สายเดิมที่ผ่านห้างเซ็นทรัลก็ปรากฏขึ้น
เฮ้อมาสักทีมานานจริงๆ ผมไม่รีรอที่จะโบกมัน
แอร๊ดดดเสียงเบรกของรถโดยสารประจำทางคันใหญ่ดังขึ้นจอดตรงหน้าของผม พรึ่บ ประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ
เด็กชายก้าวขึ้น ไปบนรถเมล์อย่างรวดเร็ว ว้าว…. วันนี้ดีจังที่ว่างเยอะเลยนั่งริมหน้าต่างก็แล้วกัน
แกร๊งๆ เสียงเขย่าเหรียญก็ดังขึ้น ลงป้ายไหนค่ะกระเป๋ารถเมล์คนเดิมถาม ลงเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ
ค่าโดยสาร 13
บาทค่ะ
ผมล้วงเหรียญที่พอมีในกระเป๋าอยู่บ้างและนำมันออกมานับ โอ๊ะ มี 13 บาทพอดีเลยแฮะ แล้วยื่นให้กับกระเป๋ารถเมล์ไป
รถเมล์ก็วิ่งไปเรื่อยๆ ผมได้แต่นั่งมองข้างๆทางเห็นวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนมากมายที่แตกต่างกันออก
ผ่านไปป้ายแล้วป้ายเล่า เซ็นทรัลป้ายหน้าลงป้ายนี้เตรียมตัวกดกริ่งด้วยนะคะ
เสียงกระเป๋ารถเมล์ดังขึ้นเพื่อแจ้งเตือนเป็นระยะๆ กริ๊งงงงง เสียงกดกริ่งดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณแจ้งเตือนของผู้โดยสารว่าต้องการที่จะลงรวมทั้งผมด้วย
พร้อมเสียงเบรคกับประตูก็เปิดออก ลงรถระวังรถข้างซ้ายมือด้วยนะคะเสียงของกระเป๋ารถเมล์กล่าวเตือน
ระหว่างที่ผู้โดยสารทยอยลง ก่อนที่รถเมล์จะวิ่งไปป้ายต่อไป เฮ้อถึงสักทีนะ
เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่มีเสียงอึกทึกครึกโครมมากมาย แสงแดดจ้ายิ่งทำให้อากาศยิ่งร้อนมากยิ่งขึ้น
เที่ยงแล้วหรอเนี่ยอากาศข้างนอกร้อนจังเลยเด็กชายบ่นพร้อมกับรีบเดินเข้าไปข้างในห้างอย่างรวดเร็ว
เซลล์ค่ะๆ วันสุดท้ายแล้วนะคะสินค้าหมดแล้วหมดเลยค่ะ เสียงของผู้หญิงรูปร่างหน้าตาดีกำลังพูดออกไมค์เพื่อเซลล์ขายของ
พร้อมกับเสียงรอบข้างมากมาย รีบไปดีกว่าผมบอกกับตัวเองแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็กชาย
จึงรีบขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสองทันที
ว้าวที่นี่ร้านค้าเยอะจังเลยมีร้านขายโทรศัพท์ด้วยเข้าไปดูดีกว่า
ผมพูดแล้วพลางเดินเข้าไปดูโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆที่วางขายเกลื่อนเลย
สวัสดีครับคุณลูกค้าหาโทรศัพท์รุ่นไหนอยู่สอบถามผมได้นะครับ
ชายหนุ่มวัยกลางคนหน้าตาตี๋ยิ้มให้กับผมพร้อมกับชี้มือไปที่โทรศัพท์รุ่นต่างๆแล้วบรรยายสเปคโทรศัพท์มากมาย
ตัวนี้เป็นสมาร์ทโฟน Android
ยี่ห้ออีโก้
ใช้งานง่ายสุดคุ้มราคาประหยัดซื้อเลยไหมครับแล้ววันนี้มีโปรโมชั่นพิเศษแถมฟิลม์กันรอยแถมเคสให้ด้วยนะครับ
ยังดีกว่าครับพี่ผมแค่มาดูไว้ก่อนเฉยๆขอบคุณมากเลยนะครับที่แนะนำผม
เด็กชายยิ้มให้หนุ่มตี๋ก่อนออกจากร้าน
และแล้วผมก็รีบเดินออกจากร้านรีบลงบันไดเลื่อนไปชั้น G เพื่อไปยังภารกิจของผม คือการสมัครงานนั่นเอง เฮ้อ
ถึงสักทีร้านเคเอฟซีสักที แล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ บรรยากาศร้านคนยังเยอะเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย
สวัสดีครับสั่งอาหารเชิญด้านนี้ครับ เด็กชายหันไปเห็นพนักงานชายหนุ่มรูปหล่อคนเมื่อวานที่กำลังยืนยิ้มหวานให้ตั้งแต่แรกเห็นอย่างไม่ลดละ
น้องมาสมัครงานใช่ไหมครับชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ทำไมพี่จำผมได้ครับ คนน่ารักอย่างน้องพี่จำได้เสมอครับ ชายหนุ่มเอ่ยชื่นชม
เอ่อ ผมได้แต่ยืนยิ้มทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเขินๆ เพราะไม่เคยมีใครพูดกับผมแบบนี้มาก่อนเลย
เดี๋ยวพี่ไปตามผู้จัดการมาให้นะครับ พนักงานชายหนุ่มเดินหายไปสักพัก
แล้วเดินออกมาพร้อมกับพี่ผู้จัดการผู้หญิงผมสั้นหน้าตายิ้มแย้มดูท่าทางใจดีมองมาทางผมแล้วเปิดประตูออกมา
สวัสดีค่ะน้องชื่ออะไรคะ สวัสดีครับผมชื่อภาคิณพร้อมกับยกมือไหว้ตามมารยาท พี่ชื่ออุ้มนะคะผู้จัดการสาขานี้ ก่อนอื่นพี่อุ้มจะไม่พูดอะไรมาก
แต่จะบอกรายละเอียดทั้งหมดให้น้องภาคิณฟังก่อนนะคะ ครับผมเอ่ย แล้วตั้งใจนั่งฟัง นี่รายละเอียดทั้งหมดนะคะ
น้องภาคิณ แล้วพรุ่งนี้พี่จะโทรไปบอกรอบเวลาที่น้องภาคิณ จะต้องเข้ามาทำงานอีกที
กรอกใบสมัครงานไปก่อนนะ พี่อุ้มต้องขอตัวก่อน ถ้าเสร็จแล้วบอกพนักงานชายที่ชื่อพี่ต้นกล้าหน้าเค้าเตอร์นะคะ
ครับขอบคุณมากครับพี่อุ้ม
ไม่เป็นไรค่ะพี่อุ้มผู้จัดการร้านยิ้มให้ผมก่อนจะเดินจากไป
ผมก็เหลือบมองไปเห็นพนักงานชายหนุ่มที่ชื่อต้นกล้ายืนยิ้มมองมาที่ผมอย่างไม่ลดละเหมือนเช่นเคย
แต่ช่างเหอะผมรีบเขียนกรอกใบสมัครพร้อมกับเตรียมเอกสารอย่างรวดเร็ว แล้วรวบรวมเอกสารเข้าด้วยกันเดินตรงยังไปหน้าเค้าเตอร์ที่พนักงานชายหนุ่มหล่อยืนอยู่
เสร็จแล้วครับผมเอ่ยขึ้น ครับ
พนักงานหนุ่มตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมยื่นมือมารับเอกสารจากมือผมไป
ระหว่างที่พี่ต้นเดินเข้าไปก็ได้แอบอ่านเอกสารของผมด้วย เสียงพลางบ่นในใจก็ดังขึ้นว่าแอบอ่านเอกสารของเราทำไมเนี่ย
เฮ้อ บ่นยังไม่ทันขาดคำ พี่ต้นกล้าเดินยิ้มออกมาหาผม น้องภาคิณ วาตะนที นะครับ เฮ้ออีกรอบ ทำไมถึงเรียกซะเต็มยศเลยนะผมคิดในใจ พี่ชื่อว่าต้นกล้าสินะครับผมเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มหน้าหล่อเหลายิ้มหวานให้ผมยกใหญ่เมื่อได้ยินผมเรียกชื่อ พี่อุ้มบอกชื่อพี่กับผมครับ แต่ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ
ผมพูดขึ้นก่อนจะจากลากลับบ้าน เดี๋ยวก่อนสิครับน้องภาคิณ เด็กชายหันกลับทันที่ที่ได้ยินเสียงชายหนุ่มเรียกชื่อ พี่เรียกผมว่าคิณเฉยๆก็ได้ครับ ได้ครับน้องคิณอย่าเพิ่งกลับสิครับพี่ต้นมีอะไรจะให้น้องคิณ
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับทำหน้าอ้อนใส่ พี่ต้นกล้ามีอะไรจะให้ผมหรอครับ เด็กชายเอ่ยถามด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก
ครืด ครืด ครืด เสียงกระดาษเครื่องปริ๊นดังขึ้นสามครั้ง ฉึก แล้วชายหนุ่มตรงหน้าของผมฉีกกระดาษปริ๊นออกไปพร้อมกับยืนขีดเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษแผ่นนั้นแล้วยื่นส่งมาให้ผม
น้องคิณครับอันนี้เบอร์ของพี่ต้นกล้าเองนะครับ พร้อมกับไอดีไลน์ของพี่ กลับบ้านแล้วแอดไลน์มานะครับพี่อยากคุยด้วย
เอ่อคือว่าจะดีเหรอครับผมเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย เด็กชายรับมาอ่านด้วยความงงงวยก่อนจะหันหน้ามองหน้าชายหนุ่มรูปหล่อชื่อต้นกล้าที่ยิ้มหวานให้เหมือนเคยก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากร้านไป
เฮ้ย……ไอ้ต้นมึงให้เบอร์น้องคนพนักงานใหม่คนนั้นไปทำไมวะกูงงว่ะ
มึงเห็นเหมือนที่กูเห็นไหมวะไอ้โอ ต้นเอ่ยถาม
เห็นดิวะไอ้ต้นเมื่อวานกูก็แอบดูน้องเขาอยู่ข้างหลังเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักซะด้วยว่ะ
กูไม่เคยมองผู้ชายด้วยกันน่ารักแบบนี้มาก่อนถึงน้องเขาจะดูบ้านๆหน่อยก็ตาม
อย่าบอกนะไอ้โอเมื่อวานมึงก็แอบดูน้องคิณของกูด้วย
เฮ้ยไอ้ต้นน้องเขายังไม่ได้มาทำงานมึงก็เหมาเป็นของมึงแล้วหรอวะ
มึงไปถามน้องเขาหรือยังว่าน้องเขาชอบมึงไหมไอ้ต้น
ถ้ามึงไปทำอะไรแบบนี้กับน้องเขามากๆระวังน้องเขาจะรังเกียจเอานะเว้ย
เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน
กูรู้น่าไอ้โอมึงไม่ต้องมาสอนกูหรอกเข้าไปทำงานของมึงต่อไปไอ้นี่นี่
สอนยังกะเป็นพ่อกูเลยนะมึง ถ้าน้องเขามามึงอย่ามายุ่งกับน้องเขาก็แล้วกันต้นกล้าพูด
กูไม่สนใจอยู่แล้วไอ้ต้นเชิญมึงจีบน้องเขาตามสบายเลย
ให้จริงอย่างที่มึงพูดละกันไอ้โอต้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข เฮ้อไอ้นี่ เห็นเด็กใหม่ไม่ได้เลยเด็กหนุ่มชื่อโออายุเท่ากันกับต้นก็พลางส่ายหัวพร้อมกับทำงานต่อ ฮัดชิ้วๆ
ฮัดชิ้วๆ….เฮ้อ เราเป็นอะไรวะ
จู่ๆก็จามออกมาทั้งที่ไม่ได้เป็นหวัด ต้องมีใครกำลังพูดถึงเราอยู่แน่ๆเลย เด็กชายบ่นออกมาพร้อมกับมองนาฬิกา
บ่าย 2 แล้วหรอเนี่ยอากาศโคตรร้อนเลย
ดีนะที่ป้ายรถเมล์มีร่ม
ต้องรีบกลับไปอาบน้ำพักผ่อนแล้วสิเราพรุ่งนี้ต้องทำงานแล้วและพรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องเข้างานกี่โมง
เพราะผมต้องรอพี่อุ้มผู้จัดการร้านโทรมาบอกอีกที ดีจังรถเมล์มาพอดีผมไม่รีรอรีบก้าวขึ้นไปทันทีเพราะเพลียกับแสงแดดและเหนื่อยเพลียกับการเดินทาง
อะไรกันแค่นี้ก็เหนื่อยเพลียแล้วหรอเนี่ยแล้วพรุ่งนี้จะทำงานไหวไหมล่ะเนี่ย
ผมพูดบ่นถึงตัวเองขณะนั่งอยู่บนรถเมล์สายเดิม ลงป้ายไหนครับ ลงป้ายหน้าหมู่บ้านลัดดาครับ 13 บาท ผมล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วนับเหรียญยื่นเหรียญให้กับกระเป๋ารถเมล์หนุ่ม
แต่เอ๊ะกระดาษอะไรติดมือมาด้วยวะเนี่ยผมร้องอุทานขึ้นมาพร้อมกับคลี่กระดาษที่ยับยู่ยี่ออกมาดู
ในกระดาษเขียนว่า แอดไลน์พี่ต้นกล้าด้วยนะครับน้องคิณ พร้อมกับเบอร์โทรของพี่ต้นกล้า
เฮ้อ ผมนั่งครุ่นคิดและยังไม่หายสงสัยเลยว่า พนักงานหนุ่มชื่อพี่ต้นกล้าให้ไลน์กับเบอร์โทรมาทำไม
ช่างเถอะถ้ามีโทรศัพท์ใหม่ค่อยแอดเป็นเพื่อนก็แล้วกัน
เฮ้ยนี่เราทำไมจะแอดพี่ต้นกล้าคนแรกเลยหรอเนี่ย นี่เราเป็นอะไรไป
แค่เจอกันแค่สองครั้งนี่จะให้พี่ต้นกล้าเป็นคนสำคัญในชีวิตไปซะแล้วเหรอเนี่ย
ถ้าเรามีโทรศัพท์เครื่องแรก และคนแรกที่ต้องแอดไลน์กับเบอร์โทรก็คือพ่อกับแม่ของผมต่างหากล่ะ
ผมนั่งครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นาน รถเมล์ที่ผมนั่งก็วิ่งผ่านไปหลายป้ายแล้ว เฮ้อถึงบ้านสักทีเด็กชายเอ่ย ลงป้ายหน้าหมู่บ้านลัดดากรุณากดกริ่งด้วยนะครับ
กระเป๋ารถเมล์หนุ่มกล่าวขึ้นก่อนที่เสียงกริ่งจะดังขึ้น กริ๊งงงง เอี๊ยดดด เสียงรถเมล์เบรคเพื่อจอดป้ายที่ผมต้องการจะลง
พรึ่บประตูก็เปิดอัตโนมัติ เด็กชายก้าวเท้าลงรถเมล์อย่างรวดเร็ว เฮ้อ ถึงบ้านสักที
ผมรีบเดินมุ่งหน้าเดินทางกลับไปยังบ้านทันที 10
นาทีผ่านไปเฮ้อ ถึงหน้าบ้านแล้วแต่ อ้าว พ่อกับแม่ยังไม่กลับบ้านอีกหรอเนี่ย
ผมรีบเดินเข้าไปไขกุญแจบ้านทันที เฮ้อไม่มีอะไรสุขใจเท่าบ้านเราอีกแล้ว ถึงแม้ว่าผมเพิ่งจะมาอยู่ก็ตามแต่กล้าพูดอย่างเต็มปากเลยว่านี่คือบ้านของผมเพราะเป็นบ้านของพ่อกับแม่ผมเหมือนกัน
นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนดีกว่าแล้วค่อยอาบน้ำก็แล้วกันนะ
พรึ่บเด็กชายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เฮ้อร้อนจังเลยไม่รอแล้วอาบน้ำเลยดีกว่า
นี่เราเป็นอะไรของเรานะเนี่ย อากาศร้อนๆแบบนี้หงุดหงิดชะมัดเลย เด็กชายรีบเดินเข้าห้องน้ำและเปิดฝักบัว
ซ่า ซ่า เฮ้อสดชื่นจังเลยอากาศร้อนๆ ได้อาบน้ำเย็นแบบนี้ เด็กชายอาบน้ำไปเรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน
แต่แล้วใบหน้าของพนักงานหนุ่มที่หล่อเหลาคมคายที่ชื่อว่าต้นกล้านั้น
วนเวียนเข้ามาในหัวของเด็กชายตอนอาบน้ำ เฮ้อ นี่ขนาดคนกำลังจะอาบน้ำยังตามมาหลอกหลอนกันอีกหรอเนี่ย
ผมอุทานขึ้นพร้อมกับถูสบู่ไปทั่วร่างกาย สระผม ล้างหน้า เฮ้อเสร็จซะที แล้วเช็ดตัวเป่าผมให้แห้งเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุด
ผมรีบขึ้นไปแต่งตัวและนอนลงบนที่นอนนุ่มๆและผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ ก๊อกๆ ก๊อกๆ คิณทำอะไรอยู่ลูก
นอนอยู่เหรอจ๊ะ ครับแม่ ผมตื่นแล้วครับ กลับมาแล้วหรอผม ไม่เป็นไรลูกถ้าง่วงก็นอนต่อเถอะนะ
แม่แค่จะปลุกลูกให้ลุกมากินข้าวน่ะ แล้วพ่อล่ะครับผมเอ่ยถามแม่
พ่อกลับมาแล้วลูกกำลังนั่งรอกินข้าวอยู่ในห้องครัวจ่ะ งั้นเดี๋ยวผมลงไปนะครับแม่ จ่ะรีบลงมานะลูก
ผมบิดขี้เกียจและรีบลงไปล้างหน้าแล้วรีบเดินเข้ามาในห้องครัว ทันใดนั้นเอง ได้งานใหม่แล้วหรอลูก พ่อผมเอ่ยถามขึ้น
ครับพ่อ ตอนพ่อกลับมาบ้านแม่เล่าเรื่องงานของลูกให้พ่อฟังหมดแล้วนะแล้วคิดว่าจะทำได้ไหมล่ะคิณ
พ่อผมเอ่ยถามขึ้น ได้สิคะพ่อก็คิณลูกของเราก็โตเป็นหนุ่มแล้วนะ
เราเลิกคุยเรื่องงานแล้วกินข้าวกันดีกว่านะ อืมครับแม่ ว้าวกับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลยครับแม่
จ่ะลูกงั้นกินได้เลยนะแม่พูดพร้อมกับตักข้าวให้
คิณแล้วโทรศัพท์ของลูกล่ะ พ่อเอ่ยถามผมขณะกินข้าวอยู่ คำถามนี้ทำให้ผมหยุดกินชั่วขณะและอึดอัดใจที่จะตอบคำถามของพ่อเป็นอย่างมาก
เอ่อคือว่าผมขายโทรศัพท์เครื่องเก่าไปแล้วครับเพราะว่าตอนนั้นผมไม่มีเงินมาหาพ่อกับแม่ที่กรุงเทพสักบาท
แล้วตอนนี้จะติดต่อที่ทำงานยังไงล่ะลูก พ่อกล่าว ผมให้เบอร์ของคุณแม่ไปน่ะครับเดี๋ยวพี่อุ้มผู้จัดการคงโทรมาครับวันพรุ่งนี้ครับ
คิณเอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะลูก เรื่องโทรศัพท์พ่อจะให้เงินคิณไปซื้อใหม่นะจะได้มีโทรศัพท์ไว้ติดต่อที่ทำงานและติดต่อพ่อกับแม่ได้
ไหนๆลูกก็จะทำงานแล้วนี่ โทรศัพท์สำคัญมากเลยนะลูกถ้าไม่มีมันจะติดต่อกันลำบาก
เมื่อเด็กชายได้ยินว่าพ่อจะให้เงินไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก็ดีใจมาก ขอบคุณพ่อสิคิณเสียงคุณแม่เอ่ยขึ้น ขอบคุณครับพ่อกับแม่น่ารักที่สุดเลยเด็กชายดีใจที่สุดที่จะได้โทรศัพท์ใหม่ซะที
ถ้าเราซื้อโทรศัพท์ใหม่ ไอ้พี่ต้นกล้าบ้านั่นก็จะรู้น่ะสิว่าเรามีไลน์แล้ว
เฮ้อทำไมต้องมาคิดถึงพี่ต้นกล้าตอนกินข้าวด้วยนะเนี่ย หรือว่าเราจะหลงรักพี่ต้นกล้าแบบไม่ทันตั้งตัวเข้าซะแล้ว
อะไรกันนี่พี่ต้นกล้ากับเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกันจะรักกันได้ยังไง เฮ้อคิดแล้วก็ปวดหัว
คิณๆเสียงแม่สะกิด อ้าวผมเหม่อลอยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แม่เห็นคิณเหม่อลอยไม่กินข้าวต่อสักที อ่อครับ
ขอโทษทีครับผมคิดหลายเรื่องมากไปหน่อย กับข้าวมื้อนี้อร่อยจังเลยครับแม่ กินข้าวหมดแล้ว
เฮ้ออิ่มจังเลย
พ่อครับแม่ครับผมขอตัวก่อนนะครับแล้วเด็กชายก็รีบเดินเข้าห้องอย่างรวดเร็ว คิณอย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนด้วยนะลูก ครับแม่
ว่าแต่วันนี้ผมง่วงนอนแต่หัววันเลย เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วผมก็เข้านอนเลยที่เหลือก็ไว้ให้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ก็แล้วกันของงานใหม่กับรักแรกที่ไม่ทันตั้งตัวกับความฝันของเด็กชายผู้ไม่เรียนต่อ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น